หน้าฝนแล้วอย่านิ่งนอนใจ มาดูแลรถช่วงหน้าฝนด้วย 7 เทคนิคง่ายๆ ไปดูกันเล้ยยย
1. ยางปัดน้ำฝน
หากเสื่อมสภาพ จะส่งผลให้การปัดทำความสะอาดกระจกหน้ารถประสิทธิภาพลดลง วิธีตรวจสอบสภาพยาง คือเปิดระบบฉีดล้างกระจกหน้ารถ ถ้าปัดแล้วกวาดน้ำไม่หมด เหลือรอยน้ำ แสดงว่ายางแข็งเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนใหม่ ถ้าเจอฝนตกหนัก ใบปัดน้ำฝนกวาดไม่หมด จะทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบติเหตุได้
2. กระปุกน้ำฉีดกระจก
น้ำฝนผสมกับเศษฝุ่นติดกระจกหน้ารถ ทำให้กระจกมัวและทัศนวิสัยการขับขี่ไม่ดี จึงควรตรวจเช็คน้ำในกระปุกให้มีเพียงพอต่อการใช้งาน กระจกมีคราบสามารถฉีดล้างได้ ไม่ใช่กดฉีดน้ำแล้วไม่มีอะไรออกมา
3. ยางรถยนต์
* ความลึกของดอกยาง หากลึกน้อยว่า 3 มม. หมายถึงดอกยางตื้น ควรเปลี่ยนยางใหม่ และไม่ควรใช้ขับลุยฝน เพราะยางจะรีดน้ำออกไม่หมด ทำให้รถเสียการทรงตัวเมื่อวิ่งผ่านถนนที่มีน้ำขัง
* หมั่นเช็กลมยาง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะหน้าฝน ควรเติมลมยางเผื่อจากมาตรฐานไว้ประมาณ 1-2 ปอนด์ ทำให้ยางแข็งช่วยรีดน้ำได้ดี
* สลับยางเมื่อใช้งานครบ 10,000 กิโลเมตร จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ทั้ง 4 ล้อให้มีความสึกใกล้เคียงกัน
4. ไฟส่องสว่าง
ไฟหน้ารถ เปิดตอนกลางคืนทำหน้าที่ส่องทางข้างหน้าให้สว่างมองเห็นชัดเจน และต้องเปิดเมื่อมีฝนตกหนักตอนกลางวันด้วย การดูแลระบบไฟส่องสว่างไม่มีอะไรยุ่งยาก ตอนจอดรถ ให้เปิดใช้งาน สำรวจรอบคัน ดูว่าติดครบทุกดวงไหม หากหลอดไฟดับ ถอดเปลี่ยน ถ้าถอดไม่เป็น ให้นำรถเข้าศูนย์บริการ
5. เบรก
การทำงานของระบบเบรกที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากในการขับรถหน้าฝน ระบบเบรกที่บกพร่องจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะจังหวะการขับขี่หรือระยะเบรกอาจไม่เหมือนกับตอนถนนแห้ง จึงควรตรวจเช็คการทำงานของระบบเบรกให้อยู่ในสภาพดีอย่างสม่ำเสมอ
* เช็คน้ำมันเบรกและผ้าเบรก ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
* ตรวจสอบการทำงานของเบรกว่าทำงานปกติหรือไม่ หากพบความผิดปกติ เช่น เบรกลึก เบรกมีเสียงดัง เบรกดึงซ้ายหรือขวา ควรนำรถเข้าตรวจสภาพทันที
6. เครื่องยนต์
ถนนในเมืองไทย เวลาฝนตกนิดตกหน่อยจะท่วมเป็นแอ่งน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอกซอกซอย ฝนตกน้ำท่วมเกินครึ่งล้อ ถ้าจำเป็นต้องขับผ่านเส้นทางเหล่านี้
* ควรปิดแอร์ขณะขับผ่านตอนน้ำท่วม
* ตรวจสอบความเสียหายหลังขับรถลุยน้ำท่วม อาจมีเศษ ขยะ เศษไม้ เศษพลาสติกต่างๆติดมา
* ตรวจเช็คว่ามีน้ำเล็ดลอดเข้าไปในระบบหรือไม่ เช่น ระบบเครื่องยนต์, ระบบเกียร์ มีความผิดปรกติในการใช้งานไหม
7. การล้างรถ
หลายคนมักคิดว่า หน้าฝนไม่ต้องล้างรถก็ได้ แต่ความจริงแล้ว ยิ่งฝนตก ยิ่งต้องล้างรถ เพราะฝนจะรวมเอาเศษฝุ่นโคลนเข้าไปลงในซอกมุมตัวถังต่างๆ ทำให้เกิดความชื้นสะสมในมุมอับ ส่งผลให้รถผุในระยะยาวได้ อีกทั้งปัญหามลภาวะที่มีอากาศเสียจากการเผาไหม้ต่างๆ ทำให้น้ำฝนมีฤทธิ์ “เป็นกรด” หรือ “ด่าง” สูงเพราะฉะนั้นถ้าปล่อยคราบน้ำฝนตกค้างอยู่บนตัวนาน น้ำฝนจะทำให้เกิดภาวะกัดกร่อนของวัสดุโลหะ ทำให้เกิดสนิมได้ และยังสร้างความหม่นหม่องให้สีรถ ไม่เงา ไม่สดใส ดังนั้นไม่ควรปล่อยรถเขรอะนาน ควรรีบชะล้างดินโคลนและสารพิษออกจากรถ
เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ 08.30-17.30น.
ฝ่ายบริการเซอร์วิสรถ : 02-508-1100
อาท: 098-929-6696
บอลลูน : 089-370-0000
เอก : 081-812-3444
LINE : @aswservice (มี@)
www.asawayont.com